Shopping Cart

No products in the cart.

5 กล้องถ่าย VLOG มาแรงปี 2023 ในราคาไม่เกิน 50,000 บาท

สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว ALPHA WOLF สำหรับปี 2023 เพื่อนๆ หลายคนอาจกำลังมองหากล้องตัวใหม่ หรือต้องการอัพเกรดจากกล้องตัวเดิมที่มี สำหรับสร้างสรรค์คอนเทนต์ใน Social Media ต่างๆ ให้มีคุณภาพ และสะดวกมากยิ่งขึ้น วันนี้เรามาแนะนำ 5 กล้องสาย VLOG ที่มาแรงปี 2023 ในราคาไม่เกิน 50,000 บาท รับรองว่าเพื่อนๆ ไม่ควรพลาดอย่างแน่นอน จะมีกล้องตัวไหนกันบ้างมารับชมกันครับ

1. Canon EOS R8 (คาดการณ์ราคา Body 50,000 บาท จัดจำหน่ายช่วงเดือนเมษายน 2023)

สำหรับกล้อง Canon EOS R8 นั้นก็พึ่งเปิดตัวมาให้เห็นกันได้ไม่นาน ซึ่งมาในสเปคการใช้งานที่เรียกได้ว่า ครบทั้งงานภาพนิ่งและวีดีโอเลยทีเดียว

ด้วยเป็นกล้องที่มีเซนเซอร์ Full Frame ความละเอียดถึง 24.2 MP และชิปประมวลผลไวอย่าง DIGIC X ที่มาช่วยเรื่อง Autofocus ที่รวดเร็วทั้งคน สัตว์ และพาหนะต่างๆ ซึ่งสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 40 ภาพต่อวินาที (Electronic Shutter), การถ่าย HDR Mode, ถ่ายแบบ Raw Burst และ Pre-Recording

สำหรับโหมดการถ่ายวีดีโอ ก็มีการพัฒนาด้วยการบันทึกแบบ 4K 60fps (6K oversampling) ไม่มีครอปภาพ, ถ่าย FHD 1080P ได้ถึง 180fps, การบันทึก 10bit 4:2:2 ด้วย Canon Log 3 / HDR PQ, Focus Breathing Correction, False Color feature, การถ่ายไลฟ์สตรีมแบบไม่ตัดด้วย Livestream Ready และ Aspect Marker สำหรับวางกรอบใช้งานในโซเชียลมีเดียอื่นๆ

PROS

  • เซนเซอร์ Full Frame ความละเอียด 24.2MP
  • ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 40fps (Electronic)
  • ถ่ายวีดีโอ 4K 60fps แบบไม่ครอป
  • ถ่ายวีดีโอ CLOG3 10bit 4-2-2
  • ฟีเจอร์ False Color
  • Livestream Ready

CONS

  • ราคาสูง
  • ไม่มีกันสั่นในตัว (NO IBIS)
  • 1 SD Card Slot

2. Nikon Z30 (ราคาศูนย์ไทย Body 24,490 บาท / Kit Z 16-50mm 28,990 บาท)

สำหรับกล้อง Nikon Z30 นั้นเป็นกล้องที่เปิดตัวมาในปีที่แล้ว เป็นกล้อง Mirrorless ที่ดีไซน์สวยเน้นกลุ่มมือใหม่สาย VLOG ที่ใช้งานทั้งภาพนิ่งวีดีโอ ในราคาไม่เกิน 30,000 บาทเท่านั้น

กล้องมิเรอร์เลส APS-C ให้ความละเอียดถึง 20.9MP ใช้ Sensor แบบเดียวกันกับ Nikon Z50 และ Nikon Z fc ใช้ชิปประมวลผลภาพ Expeed 6 มีจุดโฟกัสมากถึง 209 จุด ถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงสุด 11 fps ชัตเตอร์สปีดสูงสุดถึง 1/4000s ส่วนการถ่ายวีดีโอได้ความละเอียดสูงสุดถึง 4K 30fps และ 1080P ได้ถึง 120fps เลยทีเดียว เรียกได้ว่า ออกแบบมาสำหรับสาย Vlogger ทั้งมือใหม่ และรุ่นเก๋าสายพกพาอย่างแน่นอน

ลักษณะภายนอกของกล้อง Nikon Z30 นั้นมีรูปร่างคล้ายกับ Nikon Z50 แต่มีขนาดเล็กกระทัดรัดกว่าซึ่งมีน้ำหนักเพียง 350 กรัม อีกทั้งยังมีจอพับได้ที่สามารถหันมาเซลฟี่ได้ โดยขนาดจอมีขนาดถึงสามนิ้วเลยทีเดียว และมีความละเอียดจอสูงถึง 1.04 ล้านจุดเห็นชัดแจ๋วอย่างแน่นอน และยังทัชสกรีนได้อีกด้วย ซึ่งราคาก็เป็นมิตรมากๆ อีกด้วย

PROS

  • ราคาเป็นมิตรสบายกระเป๋า
  • APS-C Sensor ความละเอียด 20.9MP
  • สามารถถ่าย 4K 30fps
  • ถ่าย Slowmotion FullHD ที่ 120fps
  • มีขนาดเล็กน้ำหนักเบา พกพาสะดวก

CONS

  • ไม่มีโปรไฟล์ Log
  • กันสั่นไม่ดีต้องพึ่งเลนส์กันสั่น
  • 4K มีลิมิตในการถ่ายแค่ 35 นาที
  • ไม่มีช่องมองภาพ EVF
  • แบตเตอรี่หมดไว

3. Sony ZV-E10 (ราคาศูนย์ไทยพร้อมเลนส์ Kit 16-50mm 25,990 บาท)

กล้องที่มาสานต่อความสำเร็จจากกล้องรุ่นยอดนิยมอย่าง Sony ZV-1 โดยรุ่น Sony ZV-E10 เป็นกล้อง Compact ที่อัพเกรดเซนเซอร์ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น APS-C ทั้งยังสามารถเปลี่ยนเลนส์ได้อีกด้วย (Interchangeable Len)

ส่วนสเปคนั้นก็ไม่ได้น้อยหน้าใครเลย เป็นกล้องเซนเซอร์ APS-C ที่ให้ความละเอียดถึง 24.2MP สามารถถ่ายวีดีโอ 4K 30fps และ FullHD 1080P ได้ถึง 120fps แถมยังมีเซนเซอร์โฟกัสแบบ Fast Hybrid ที่โฟกัสได้ถึง 425 จุดกันเลยทีเดียว ทั้งยังมาพร้อมกับจอที่ปรับถ่ายแบบเซลฟี่ได้ถึง 3″ อีกด้วย

ภายนอกนั้นดีไซน์มาแบบเรียบง่ายโดยการนำโครงสร้างมาจาก Sony A6000 รุ่นยอดฮิตนั้นเองที่มีดีไซน์เรียบง่ายปุ่มน้อยแต่ทำความเข้าใจในการใช้งานได้ง่าย ซึ่งปุ่มที่มีนั้นจะเน้นไปในส่วนที่เราใช่งานกันบ่อยอย่างเช่นปุ่นมเลื่อนซ้ายขวาเพื่อซูม ปุ่มเปิด/ปิด Dept Focus เพื่อละลายหลัง ปุ่มชัตเตอร์และปุ่มวีดีโอในการกดถ่าย ปุ่มเปลี่ยนโหมดถ่ายภาพ ถ่ายวีดีโอ และโหมด S&Q ซึ่งเรียกได้ว่าใช้งานง่ายและรวดเร็ว

PROS

  • APS-C Sensor 24.2MP
  • รองรับการถ่าย 4K 30fps FullHD 120P
  • ถ่าย Slowmotion FHD 1080P ได้ที่ 120fps
  • ปุ่มใช้งานน้อย แต่ทำให้ใช้งานง่าย
  • ปุ่มปรับโหมดกล้องแยกจากโหมดการถ่าย
  • มี Soft Skin Mode สำหรับสาย Beauty

CONS

  • จอ Touch Screen ใช้งานได้ไม่ครบฟังชั่น
  • ไม่มีช่องมองภาพ EVF
  • กันสั่นยังไม่ค่อยนิ่ง

4. Fuji X-S10 (ราคาศูนย์ไทย Body 35,900 บาท / Kit 15-45mm 39,990 บาท)

กล้องดิจิตอลอารมณ์ฟิล์ม ที่นำเทคโนโลยีและความสามารถจากกล้องตัวท็อปมาบีบใส่ในบอดี้ขนาดเล็ก ด้วยสเปคเกินตัวอย่างเซนเซอร์ APS-C ที่มีความละเอียดถึง 26.1MP, ระบบกันสั่น 5 แกน, โทนสี Film Simulation ถึง 18 แบบ ในเรื่องการถ่ายวีดีโอ สามารถถ่าย 4K 30fps และ Full HD สูงสุดที่ 240fps และยังสามารถบันทึกแบบ 10-bit 4:2:2 ผ่าน External Monitor ได้อีกด้วย

สำหรับกล้อง Fuji X-S10 เรียกได้ว่าแค่เห็นภายนอกคนก็เหลียวมองกันแล้วด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ในสไตล์ FUJI และยังมีน้ำหนักเบาอีกด้วย ​เพียง 465 กรัมเท่านั้นและยังมีจอที่สามารถหมุนได้ถึง 360 องศาอีกด้วยขนาดสามนิ้ว

PROS

  • ดีไซน์สวยงามน่าใช้ขนาดเล็ก
  • APS-C ความละเอียด 26.1 MP
  • รองรับการถ่าย 4K 30fps
  • Slowmotion FHD 240fps
  • มีโทนให้เลือกใช้ถึง 17 โทน
  • มี Silent Mode
  • จอแสดงผลแบบ Vari-Angle

CONS

  • ช่องมองภาพตื้น
  • ไม่มี Weather Seal

5. Insta360 X3 (ราคาศูนย์ไทย 17,900 บาท)

เราได้พูดถึงกล้องถ่ายรูปปกติมากันหมดแล้วนะครับ ตัวสุดท้ายนั้นจะเป็นกล้อง Action Camera ที่ถูกพูดถึงอย่างมากในปีที่แล้ว นั้นก็คือ Insta360 X3 ที่ทางเราคิดว่าน่าจะเหมาะกับเพื่อนๆ ที่ชอบถ่าย VLOG แบบ 360 องศา หรือต้องการที่จะเก็บบรรยากาศโดยรอบ โดยที่ไม่ต้องโฟกัสกับการถือกล้องมากนัก

Insta360 X3 นั้นสามารถถ่ายวีดีโอคุณภาพสูงสุดถึง 5.7K ด้วยเซนเซอร์ใหม่ขนาดใหญ่ถึง 1/2″ ทำให้ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น มาพร้อมไมโครโฟนอีก 4 ตัว รอบทิศทางกันสั่นถึง 6 แกน กันน้ำได้ลึกถึง 10 เมตรและยังมีโหมดที่น่าสนใจ และเอฟเฟคที่น่าสนใจที่สามารถทำต่อในโปรแกรมหรือแอปจาก Insta ได้อีกด้วยอาทิเช่น  Invisible Selfie Stick ไม้เซลฟี่ที่ล่องหน, 360 Degree Camera Angle ถ่ายทุกมุมด้วยกล้อง 360 องศา หรือ ME mode

ซึ่งนอกจากนี้ยังมีขนาดเล็กตามแบบฉบับแอคชั่นแคมและมีน้ำหนักเพียง 180 กรัมเท่านั้น ขนาดหน้าจอทัชสกรีนขนาดใหญ่ถึง 2.29″ ทำให้การถ่ายตัวเองได้สะดวกอย่างมาก รองรับการ Streaming อีกด้วยและยังมี Horizon Lock ป้องกันภาพเอียงอีกด้วย

ซึ่งเพื่อนๆสามารถอ่านข้อมูลฟีเจอร์เจ๋งๆของ Insta360 X3 ได้จากลิ้งค์นี้เลยครับ

PROS

  • ใช้งานง่าย
  • น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
  • หน้าจอใหญ่ถึง 2.29″
  • รองรับการถ่ายไฟล์สูงสุด 5.7K
  • กันน้ำได้ 10 เมตร
  • กันสั่น 6 แกน
  • มีฟีเจอร์ให้เลือกเล่นเลือกใช้งานได้เยอะ

CONS

  • เน้นถ่ายวีดีโอเป็นหลัก
  • Frame Rate ไม่สูงสำหรับกล้องแอคชั่นแคม
  • วัสดุเปราะบาง ไม่เหมาะกับสายลุย

และนี้ก็คือ 5 กล้องสาย VLOG มาแรงปี 2023 ที่ไม่ควรพลาดนั้นเอง ซึ่งสำหรับการเลือกกล้องนั้นเราควรเลือกจากสิ่งที่เราจะใช้ ออปชั่นต่างๆเพื่อความคุ้มค่าด้วยนะครับ เพื่อจะทำให้เราไม่เสียดายในภายหลัง และนี้ก็คือข้อมูลไฮไลท์หลักของกล้องทั้ง 5 ตัว ทั้งนี้ถ้าเพื่อนๆ มีคำถามข้อสงสัยหรืออยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถทักมาหาเราได้ที่ Line : @alphawolf ได้เลยครับผม