Shopping Cart

No products in the cart.

วิธีเลือกซื้อกล้อง สำหรับคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ปี 2022

สำหรับคอนเทนต์ครีเอเตอร์มือใหม่ หรือมือโปรที่ต้องการหากล้องตัวที่ 2 บทความนี้ห้ามพลาดเลยครับ !!

โดยวันนี้เรามาแนะนำ วิธีเลือกซื้อกล้องอย่างไรให้เหมาะสมกับตัวเพื่อนๆ เอง โดยมี 8 สิ่งที่ควรรู้ก่อนเลือกซื้อกล้องดังนี้ครับ

1 PRICE งบประมาณ

สำหรับข้อแรกเป็นข้อสำคัญที่สุดเพื่อไม่ให้งบของเราบานปลาย และเกิดความสับสนกับกล้องหลายๆ รุ่นที่ออกมาใหม่ ซึ่งมีอยู่เยอะพอสมควร ดังนั้นเราต้องดูว่า เราได้กำหนดงบสำหรับกล้องถ่ายรูป (ไม่รวมราคาเลนส์) ไว้เท่าไหร่ เพื่อให้ง่ายต่อการเลือกซื้อ อย่างเช่น

  • ราคาไม่เกิน 20,000 บาท
  • ราคาระหว่าง 20,000 – 30,000 บาท
  • ราคาระหว่าง 30,000 – 50,000 บาท
  • ราคาระหว่าง 50,000 – 100,000 บาท
  • ราคา 100,000 บาทขึ้นไป

2 Camera Resolution & Color Depth ความละเอียดในการบันทึก และความลึกของเฉดสี

สำหรับ Resolution คือ ความละเอียดหรือความคมชัดในการบันทึกวีดีโอนั้นเอง หลายๆ ครั้งเพื่อนๆ คงได้ยินคำว่า ถ่ายแบบ 4K หรือ Full HD 1080P ซึ่งข้อดีของการถ่ายแบบ 4K เลยก็คือ มีความละเอียดที่มากกว่าเท่าตัว เมื่อเทียบกับการถ่ายแบบ Full HD (4K = 3840x2160P, Full HD = 1920x1080P) ทำให้ภาพมีความคมชัดที่มากกว่า และเราสามารถเลือกที่จะขยายภาพในส่วนๆ นั้นเพิ่มได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยปริมาณไฟล์ที่ใหญ่กว่า และความเร็วของคอมพิวเตอร์ที่สูงขึ้นในการตัดต่อนั้นเอง

โดยในปี 2022 เราแนะนำให้เลือกกล้องที่สามารถจะบันทึกความละเอียดขั้นต่ำที่ 4K Resolution และให้จำนวน Frame Rate (จำนวนภาพต่อวินาที) อยู่ที่ 60 FPS สำหรับการทำ Slowmotion

ส่วนต่อมาคือ Color Depth (ความลึกของเฉดสี) ซึ่งโดยปกติแล้ว กล้องทั่วไปจะมีความสามารถในการบันทึกมาตรฐานอยู่ที่ 8 BIT หรืออยู่ที่ 256x256x256 = 16 ล้านเฉดสี แต่ก็จะมีกล้องรุ่นโปรส่วนหนึ่งที่สามารถบันทึกได้ถึง 10 BIT หรืออยู่ที่ 1024x1024x1024 = 1,000 ล้านเฉดสี ทำให้เราสามารถที่จะเกรดสี (Colorgrading) หรือใส่สไตล์ (LUT) ได้อิสระมากขึ้น โดยที่ภาพยังคงคุณภาพที่ดีได้เหมือนเดิม

3 Sensor Size ขนาดของเซนเซอร์

การเลือกขนาดเซนเซอร์ของกล้อง (Sensor Size) เป็นการกำหนดงบประมาณโดยรวมที่เราต้องลงทุนรวมถึงเลนส์ที่ต้องใช้ โดยขนาดเซนเซอร์ของกล้องมีตั้งแต่ 1 นิ้ว, M4/3, APS-C จนถึง Full Frame

โดยยิ่งมีขนาด Sensor ใหญ่มากเท่าไหร่ ยิ่งให้คุณภาพของภาพดีมากขึ้นเท่านั้น (High Image Quality), ความสามารถถ่ายในที่แสงน้อย (Low-Light Performance) และการละลายฉากหลังของภาพ (Depth of Field)

สำหรับขนาดเซนเซอร์ของกล้องที่นิยมในปัจจุบันหลักๆ จะเป็น APS-C และ Full Frame เนื่องจากคุณภาพของภาพที่ดีมาก ซึ่งหากท่านเป็นมือใหม่ เราจะแนะนำให้ลองใช้ APS-C ก่อน เนื่องจากราคาทั้งกล้องและเลนส์มีราคาที่ไม่แพงมากนัก แต่ให้คุณภาพที่สูงพอในการใช้ในงานได้เกือบทุกรูปแบบ

4 Len Choice เลนส์ที่ใช้

ส่วนนี้เป็นสิ่งที่คนอาจจะคำนึงถึงน้อย แต่เป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่าการที่จะเลือกซื้อกล้องรุ่นไหนดี? เนื่องจากเลนส์มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่ากล้อง และเป็นส่วนที่มีราคาสูงที่สุด ด้วยกล้องหนึ่งตัว ต้องใช้เลนส์หลายตัว

ดังนั้นสำหรับคนที่มีงบประมาณไม่มากนัก การซื้อกล้อง Full Frame อาจจะไม่ตอบโจทย์มากนัก เนื่องจากเลนส์โปรแต่ละตัวมีราคาที่สูงมาก ซึ่งอาจจะสูงกว่าราคากล้องที่เราซื้อซะอีก หากท่านกำลังเลือกกล้องตัวแรกที่จะสร้างคอนเทนต์ เราแนะนำให้เริ่มจากกล้องประเภท APS-C ก่อน ด้วยเลนส์ที่มีราคาไม่สูงมากนัก แต่มีคุณภาพที่ดี

5 Auto Focus ออโต้โฟกัส

สำหรับการทำงานคนเดียวหรือ Solo Creator กล้องที่โฟกัสดีมีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะงานของเราจะมีความผิดพลาดน้อยและลดความยุ่งยากลงไปได้เยอะมากสำหรับคนที่ต้องทำงานคนเดียว อย่างเช่น การถ่าย Vlog หรือการไลฟ์สด เราแนะนำแบรนด์กล้องที่ขึ้นชื่อเรื่องการโฟกัสได้ดีเยี่ยม นั้นคือ Canon และ Sony ครับ

6 Weight น้ำหนักของกล้อง

น้ำหนักและขนาดของกล้องเป็นสิ่งที่ทำให้เราตัดสินใจเรื่องความถี่ในการพกติดตัวไปใช้งานทุกครั้ง ซึ่งกล้องที่มีน้ำหนักค่อนข้างมากอย่าง Full Frame ให้คุณภาพที่สูงจริง แต่ก็มีความลำบากในการพกพาที่สูงตาม ด้วยน้ำหนักและขนาดของกล้องและเลนส์ที่ค่อนข้างเยอะ โดยส่วนนี้จะขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของผู้ใช้งานเป็นหลัก

7 Flip Screen หน้าจอพับได้

ฟีเจอร์นี้เคยเป็นจุดเด่นมากของกล้อง Canon แต่ในปัจจุบันกล้องหลายค่ายเริ่มหันมาทำหน้าจอ Flip Screen จึงทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการหมุนหน้าจอให้สามารถเห็นตัวเองขณะถ่ายวีดีโอได้นั้นเอง หากถามว่าสำคัญมากขนาดนั้นสำหรับสายคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ต้องบอกได้อย่างเต็มปากว่า ขาดสิ่งนี้ไม่ได้เลยตั้งหาก

8 Ergonomics รูปทรงของกล้อง

ส่วนนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่เป็นปัจเจกบุคคล ไม่สามารถที่จะตัดสินได้อย่างแน่นอนขึ้นอยู่แต่ละบุคคล แนะนำให้ไปลองจับกล้องตัวจริงในร้านกล้องทั่วไปได้เลยครับ

และนี้ก็คือ 8 สิ่งที่ควรรู้ก่อนเลือกซื้อกล้อง เพื่อช่วยเพื่อนๆ ประกอบการตัดสินใจ หากเพื่อนๆ คนไหนอยากทราบว่า ในปี 2022 มีกล้องรุ่นไหนที่น่าสนใจสำหรับสาย Content Creator โดยเรามีกล้องมาแนะนำดังนี้ครับ

I. Sony ZV1 Vlog Camera 20,990.-

Sony ZV1 กล้องคอมแพคเซนเซอร์ขนาด 1 นิ้ว ที่ฟีเจอร์ VDO โดดเด่นไม่ว่าจะเป็น One Touch Bokeh และ Product Showcase พร้อมระบบ Auto Focus ที่รวดเร็วทันใจ สำหรับสาย Vloggers และ Youtubers

  • กล้องความละเอียด 20.1 MP ด้วยเซนเซอร์ขนาด 1″ stacked CMOS sensor
  • รองรับการถ่ายวีดีโอ 4K สูงสุดถึง 30 FPS
  • พร้อมเลนส์ ZEISS 24-70mm f1.8-2.8 คุณภาพสูง
  • ฟีเจอร์เด่น: Bokeh Switch, Product Showcase และ Soft Skin Effect
  • จอ LCD 3 นิ้ว ปรับหมุน Flip Screen ได้
  • ช่องเสียบ SD Card 1 Slot
  • ช่องต่อไมโครโฟน 3.5mm แต่ยังไม่มีช่อง Headphone Jack
  • มี Built-in ND Filter ในตัว และระบบกันสั่นในตัวเลนส์
  • น้ำหนักเพียง 294 กรัม

II. Canon EOS M50 Mark II Kit 15-45mm 25,990.-

Canon EOS M50 Mark II เป็นกล้อง APSC Mirrorless ที่ขายดีที่สุดของ Canon อีกรุ่นหนึ่ง ออกแบบสำหรับสาย Content Creator และ Live Streamer โดยเฉพาะ ทำงานได้ดีทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ ถ่าย 4K ได้ถึง 24 FPS (มีครอป 1.5 เท่า) และระบบออโต้โฟกัสที่แม่นยำ ตอบโจทย์ทุกงานคอนเทนต์อย่างแน่นอน

  • กล้องความละเอียด 24.1 MP ด้วยขนาดเซนเซอร์ APS-C CMOS
  • รองรับการถ่ายวีดีโอ 4K สูงสุดถึง 24 FPS (Crop 1.5x, No Autofocus)
  • พร้อมเลนส์ Kit EF-M 15-45mm f3.5-6.3
  • จอ LCD 3 นิ้ว ปรับหมุน Flip Screen ได้
  • ระบบออโต้โฟกัสที่แม่นยำด้วย Dual Pixel CMOS AF
  • ถ่ายวีดีโอต่อเนื่องได้นาน 30 นาที และสามารถต่อไลฟ์ด้วย USB เส้นเดียว
  • ช่องเสียบ SD Card 1 Slot
  • มีช่องต่อไมโครโฟนและหูฟังขนาด 3.5 mm
  • น้ำหนักเพียง 387 กรัม

III. Sony ZV-E10 Mirrorless Kit 16-50mm 25,990.-

Sony ZV-E10 กล้องรุ่นพี่ที่อัพเกรดมาจากกล้องคอมแพคยอดนิยม Sony ZV1 โดยได้ยกฟีเจอร์เด่นๆ มาหลายตัว พร้อมภาคอัพเกรดใหม่ เช่น ใช้ Sensor ขนาด APS-C สามารถถ่าย Low Light ได้ดีขึ้น และสามารถเลือกเปลี่ยนเลนส์ได้เป็นต้น

  • กล้องความละเอียด 24.2 MP ด้วยเซนเซอร์ APS-C Exmor CMOS
  • รองรับการถ่ายวีดีโอ 4K ได้ถึง 30 FPS
  • มาพร้อมเลนส์ Kit 16-50mm f3.5-5.6
  • จอ LCD 3 นิ้ว ปรับหมุน Flip Screen ได้
  • ระบบออโต้โฟกัสที่รวดเร็ว และแม่นยำขึ้น (Human & Animal)
  • ช่องเสียบ SD Card 1 Slot
  • มีช่องต่อไมโครโฟนและหูฟังขนาด 3.5 mm
  • น้ำหนักเพียง 343 กรัม

IV. Fujifilm X-S10 Mirrorless Kit 15-45mm 49,900.-

Fujifilm X-S10 กล้องทรงฟิล์มดีไซน์คลาสสิคตัวเล็ก สเปคโหดด้วย ด้วยความสามารถถ่ายวีดีโอ 4K ถึง 30 FPS รองรับการใช้โปรไฟล์ F-Log และ Film Simulation ปรับสีโทนฟิล์มได้อีก 18 แบบ เอกลักษณ์โดยเฉพาะของ Fujifilm

  • กล้องความละเอียด 26 MP ด้วยเซนเซอร์ APS-C X-Trans BSI-CMOS
  • รองรับการถ่ายวีดีโอ 4K ได้ถึง 30 FPS
  • ให้โปรไฟล์ F-Log และ Film Simulation ถึง 18 แบบ
  • มาพร้อมเลนส์ Kit 15-45mm f3.5-5.6
  • ระบบกันสั่นในตัว (IBIS) 5 แกน ถือถ่ายได้นิ่ง
  • จอ LCD 3 นิ้ว ปรับหมุน Flip Screen ได้
  • ปรับปรุงระบบออโต้โฟกัสให้รวดเร็วขึ้น
  • ช่องเสียบ SD Card 1 Slot
  • มีช่องต่อไมโครโฟนและหูฟังขนาด 3.5 mm
  • น้ำหนักเพียง 415 กรัม

V. Canon EOS R7 Mirrorless (Body) 49,900.-

Canon R7 กล้อง APS-C Mirrorless เรือธงรุ่นแรกจากตระกูล R Series ด้วยชิปประมวลผล DIGIC X ความเร็วสูง ทำให้โฟกัสได้รวดเร็วและแม่นยำ เหมาะสำหรับถ่ายกีฬา Sport หรือถ่ายนก Wildlife การถ่ายวีดีโอก็ทำได้ดีเยี่ยมด้วยความละเอียดถึง 4K 60 FPS และยังสามารถถ่ายได้ถึง 10Bit 4:2:2 ในโหมด C-Log และ C-Log3

  • กล้องความละเอียด 32.5 MP ด้วยเซนเซอร์ APS-C Dual Pixel CMOS
  • รองรับการถ่ายวีดีโอ 4K ได้ถึง 60 FPS
  • บันทึก Color Depth ได้ถึง 4:2:2 10Bit ใน C-Log และ C-Log3
  • จอ LCD 3 นิ้ว ปรับหมุน Flip Screen ได้
  • ระบบออโต้โฟกัสที่รวดเร็ว และแม่นยำขึ้น
  • ระบบกันสั่นบอดี้ 5 แกน (IBIS)
  • ช่องเสียบ SD Card 2 Slot
  • มีช่องต่อไมโครโฟนและหูฟังขนาด 3.5 mm
  • น้ำหนักเฉพาะบอดี้ 612 กรัม

VI. Sony A7 IV Hybrid Full Frame (Body) 82,990.-

Sony A7 IV กล้องที่หลายคนรอกันมานานว่าเมื่อไหร่จะออกมา ในที่สุดก็เปิดตัวด้วยสเปควีดีโอที่เรียกได้ว่า ใกล้เคียงระดับ Cinema มากขึ้น ด้วยฟีเจอร์เด่นอย่าง Focus Mapping ระบบช่วยโฟกัสแบบใหม่, Variable Shutter Speed และโปรไฟล์แบบ S-Cinetone

  • กล้องความละเอียด 33 MP ด้วยเซนเซอร์ Full Frame BSI CMOS
  • รองรับการถ่ายวีดีโอ 4K ได้ถึง 60 FPS (Crop 1.5X)
  • บันทึก Color Depth ได้ถึง 4:2:2 10Bit Bitrate 500 Mbps
  • จอ LCD 3 นิ้ว ปรับหมุน Flip Screen ได้
  • ระบบออโต้โฟกัสที่รวดเร็ว และแม่นยำขึ้น
  • ระบบกันสั่นบอดี้ 5 แกน (IBIS)
  • ช่องเสียบการ์ด 2 Slot รองรับ CFexpress Type A และ SD Card
  • มีช่องต่อไมโครโฟนและหูฟังขนาด 3.5 mm
  • น้ำหนักเฉพาะบอดี้ 658 กรัม

VII. Sony A7S III Full Frame Mirrorless (Body) 121,990.-

Sony A7S III กล้องวีดีโอตัวจบสำหรับงานสาย Production ด้วยความสามารถในการบันทึกวีดีโอได้ถึง 4K 120 FPS ระบบสี 4:2:2 10 BIT ตอบโจทย์ทุกงานวีดีโอ ISO ปรับได้ถึง 409,600 และด้วยเซนเซอร์ที่มีความละเอียดไม่มาก 12.1 MP ทำให้รับปริมาณแสงได้มากขึ้นต่อจุดพิกเซล ช่วยให้งานถ่ายในที่แสงน้อยมีความคมชัดและลดการเกิด Noise ได้ดี

  • กล้องความละเอียด 12.1 MP ด้วยเซนเซอร์ Full Frame Exmor CMOS
  • รองรับการถ่ายวีดีโอ 4K ได้ถึง 120 FPS
  • บันทึกระบบสี 4:2:2 10Bit
  • ระบบ Hybrid Autofocus System รวดเร็วและแม่นยำ
  • ระบบกันสั่นบอดี้ 5 แกน (IBIS)
  • จอ LCD 3 นิ้ว ปรับหมุน Flip Screen ได้
  • ช่องเสียบการ์ด 2 Slot รองรับ CFexpress Type A และ SD Card
  • มีช่องต่อไมโครโฟนและหูฟังขนาด 3.5 mm
  • น้ำหนักเฉพาะบอดี้ 699 กรัม

VIII. Sony FX3 Full Frame Cinema Camera 134,990.-

Sony FX3 กล้องเริ่มต้นสายภาพยนตร์ใน Sony FX Cinema Lineup ที่โดดเด่นด้วยขนาดที่เล็กพกพาสะดวก ความสามารถในการถ่ายวีดีโอ 4K 120 FPS ในระบบสี 10-Bit 4:2:2 แบบ All-I กันสั่นในตัว 5 แกน และให้ที่จับ Top Handle ที่มี Built-in XLR สำหรับต่อไมโครโฟนคุณภาพสูงอีกด้วย

  • กล้องความละเอียด 12.1 MP ด้วยเซนเซอร์ Full Frame Exmor R BSI CMOS
  • รองรับการถ่ายวีดีโอ 4K ได้ถึง 120 FPS
  • บันทึกระบบสี 4:2:2 10Bit ที่ Bitrate 600 Mbps
  • ระบบ Hybrid Autofocus System รวดเร็วและแม่นยำ
  • ระบบกันสั่นบอดี้ 5 แกน (IBIS)
  • จอ LCD 3 นิ้ว ปรับหมุน Flip Screen ได้
  • ช่องเสียบการ์ด 2 Slot รองรับ CFexpress Type A และ SD Card
  • มีช่องต่อไมโครโฟนและหูฟังขนาด 3.5 mm
  • น้ำหนักเฉพาะบอดี้ 715 กรัม

และนี้คือรายการกล้องทั้งหมดที่เราแนะนำสำหรับ Content Creator ในปี 2022 นี้

หากมีข้อสงสัยส่วนไหน ติดต่อสอบถามมาได้ที่ Line @alphawolf ได้เลยครับ